Smart Home เทคโนโลยียุคใหม่เพื่อความสะดวกสบายภายในบ้าน
การใช้งาน Smart Home หรือ บ้านอัจฉริยะ ในอดีตอาจเป็นเรื่องไกลตัวที่ดูหรูหรา แปลกตา จับต้องไม่ได้ ไม่ว่าจะราคาหรือความเข้าใจในเทคโนโลยีการทำงานของตัวอุปกรณ์ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปและเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น ราคาของสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Smart Home ก็ถูกลง เป็นโอกาสให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถขยายตลาดของตนเข้าสู่คนรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น
แน่นอนว่าความสะดวกสบายเป็นเป้าหมายหนึ่งในการใช้งาน Smart Home แต่สิ่งที่เทคโนโลยีมอบให้ไม่ได้มีเพียงแค่นั้น
ตัวอย่างของเทคโนโลยี Smart Home ในปัจจุบันที่เห็นได้ชัดคือการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านผ่านโทรศัพท์มือถือ การสั่งการด้วยเสียงไปยังลำโพงอัจฉริยะอย่าง Alexa หรือ Google Home หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านที่คอยดูดฝุ่นแบบอัตโนมัติ
สิ่งที่ทำให้ Smart Home โดดเด่น นอกจากจะเป็นการสั่งการที่ง่าย การทำงานแบบอัตโนมัติ อุปกรณ์ต่างๆ ยังมีการเก็บข้อมูลและแสดงข้อมูลเพื่อสนับสนุนให้การอยู่อาศัยในชีวิตประจำวันสะดวกมากขึ้น เช่น การเก็บข้อมูลบุคคลที่เดินผ่านประตูของกล้องวงจรปิด และการเก็บข้อมูลอุปกรณ์ที่มักถูกเปิดทิ้งภายในบ้านเพื่อแสดงให้ผู้อยู่อาศัยได้เห็น
ปัจจัยหลักที่ทำให้บ้านอัจฉริยะได้รับการยอมรับและใช้งานอย่างกว้างขวางคือ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ที่ตอนนี้เข้าถึงแทบทุกพื้นที่บนโลก เมื่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุม การใช้งานอุปกรณ์ Smart Home ที่ส่วนมากต้องอาศัย WIFI เป็นหลัก ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่
อีกปัจจัยคือความต้องการในตลาดที่มากขึ้น ส่งผลให้มีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการหลากหลายรูปแบบของลูกค้า และทำให้ค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ Smart Home และสิ่งที่เกี่ยวข้องเริ่มลดลงตามกลไกตลาด
โดยมูลค่าตลาดของ Smart Home ทั่วโลกในปี 2020 คาดว่าจะอยู่ที่ 84,637 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.6 ล้านล้านบาท) และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
นอกจาก Smart Home แล้ว การปรับใช้เทคโนโลยีเข้ากับอาคารประเภทอื่นๆ เช่น สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า เป็นรูปแบบ Smart Building ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน ตัวอย่างอาคารสำนักงาน Energy Complex (EnCo) ในกลุ่ม ปตท. ที่มีการออกแบบและใช้เทคโนโลยีต่างๆ พัฒนาและปรับปรุงให้เป็น Smart Building เพื่อตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่และการจัดการพลังงานอย่าง
จุดประสงค์หลักของการใช้งาน Smart Home ย่อมเป็นความสะดวกสบายอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะการทำงานแบบอัตโนมัติโดยที่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องสั่งการ การเปิดปิดสิ่งต่างๆ ได้ด้วยคำสั่งเสียงหรือเพียงปลายนิ้วคลิก
นอกเหนือจากนี้เรายังสามารถตั้งค่าภายในระบบต่างๆ ให้เหมาะสมกับตัวเอง เช่น ปิดแอร์เมื่อไม่มีคนอยู่ หรือเปิดทิ้งไว้เมื่อมีสัตว์เลี้ยง เปิดปิดประตูเป็นเวลาเพื่อต้อนรับคน หรือเปิดหน้าต่างต้อนรับวันใหม่ก็สามารถทำได้ง่ายๆ
การติดตั้งอุปกรณ์ Smart Home ภายในบ้านจะช่วยให้การจัดการพลังงานโดยรวมดีขึ้น ทั้งพลังงานไฟฟ้า น้ำ และพลังงานรูปแบบอื่นๆ โดยอุปกรณ์ Smart Home นอกจากจะสามารถตั้งเวลาการทำงานได้แล้ว ยังสามารถตรวจจับผู้คนภายในบ้าน คอยปิดไฟ แอร์คอนดิชันเนอร์ พัดลม เมื่อไม่มีคน และเปิดกลับมาเมื่อมีคนได้อีกด้วย
นอกเหนือจากนั้นในตัวอุปกรณ์ยังมีการปรับ (Adjustment) ให้เข้ากับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน เช่น ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม เปิดปิดหน้าต่างอัตโนมัติเพื่อลดความร้อนภายในบ้าน เพื่อให้การประหยัดพลังงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การปรับบ้านให้เป็น Smart Home นั้นรวมถึงการวางระบบความปลอดภัยเช่น ประตูอัตโนมัติ หน้าต่างอัตโนมัติ ที่สามารถควบคุมได้ด้วย Smart Phone หรือคอมพิวเตอร์ และสามารถรู้ได้ทันทีว่ามีการเปิดประตูหรือหน้าต่างบานใดทิ้งไว้หรือไม่
การวางระบบอัตโนมัตินี้เป็นประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะคนที่ชอบลืมล็อกบ้านหรือหน้าต่าง แล้วออกไปข้างนอก โดยคุณสามารถล็อกมันด้วยตัวเองผ่านมือถือหรือตั้งระบบไว้ล่วงหน้าได้
อุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมากที่สุดสำหรับช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ชัดเจนว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าย่อยๆ อื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ปลั้กไฟอัจฉริยะที่สามารถติดตั้งและใช้งานได้ทันที อุปกรณ์ IoT ที่ติดตั้งตามเครื่องใช้ไฟฟ้าและหลอดไฟ สนับสนุนให้สามารถทำงานได้แบบอัตโนมัติ
รวมไปถึงอุปกรณ์สั่งการอย่าง Alexa, Amazon Echo และ Google Home ที่เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของ Smart Home ของหลายๆ คนก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน
ถ้าพูดถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า คนส่วนมากอาจนึกถึง Smart TV หรือ Air Conditioner แต่จริงๆ แล้ว Smart Appliances ในปัจจุบันครอบคลุมถึงตู้เย็น เตาอบ เครื่องชงกาแฟ เครื่องปั่นน้ำผลไม้ และเครื่องล้างจาน ซึ่งอุปกรณ์ที่กล่าวมาก็ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากในไทยและต่างประเทศ เนื่องจากราคาไม่สูงมาก สามารถจับต้องได้โดยเฉพาะจากแบรนด์เล็ก
อุปกรณ์ประเภทกล้องวงจรปิด ประตู หน้าต่างอัตโนมัติ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่น่าจับตามอง เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับกล้องและ IoT พัฒนาไปไกล ทำให้บ้านสมัยใหม่มักมีการติดอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยตั้งแต่ช่วงขาย กระตุ้นให้บ้านหลังอื่นๆ ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น
ระบบไฟเป็นระบบพื้นฐานสำหรับ Smart Home ที่สร้างความสะดวกสบายในทุกแง่มุม ซึ่งจะมีทั้งไฟอัตโนมัติ ตั้งเวลา และการควบคุมไฟส่องสว่างผ่าน Smart Phone ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการประหยัด หรือต้องการสร้างความทันสมัยภายในบ้านของตัวเอง
นอกจากอุปกรณ์ด้านบนแล้ว ปัจจุบันยังมีการผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อการใช้งานในบ้านมากขึ้น เช่น การสร้าง Smart Mirror ที่สามารถสั่งการอุปกรณ์ภายในบ้าน มีหน้าปัดบอกเวลา หรือ Smart Speaker ที่รวมระบบภายในบ้านและทำการสั่งการด้วยเสียงจากอุปกรณ์หนึ่งเดียว
อุปกรณ์ภายในบ้านเป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบใหญ่ ปัจจุบันแนวคิดของการปรับใช้เทคโนโลยีไม่ได้หยุดอยู่เพียงบ้านหนึ่งหลังเท่านั้น แต่ยังต่อยอดไปในระดับเมือง (Smart City) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
อ่านการต่อยอดความ Smart ไปสู่ระดับเมืองใน การประยุกต์ใช้ AI ใน Smart City
Smart Home เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีทันสมัยที่มาแรงไม่น้อย นอกจากจะช่วยในแง่ของความสะดวกสบายยังทำให้ประหยัดพลังงาน และมีความปลอดภัยอีกด้วย ตัวอุปกรณ์เองก็มีให้เลือกใช้หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของคนจำนวนมาก
