สมาร์ทโฮม

Smart Home คืออะไรกันแน่? – บ้านอัจฉริยะ

Smart Home คืออะไร? หลายคนที่ติดตามข่าวสารด้านไอทีหรือในแวดวงอสังหาฯคงเคยได้ยินหรือเคยเห็นคำๆนี้ผ่านหน้าผ่านตากันมาบ้าง บ้างก็ว่าเป็นระบบช่วยอำนวยความสะดวกภายในบ้าน บ้างก็ว่าเป็นตัวช่วยด้านความปลอดภัย บ้างก็ว่ามันเป็นแค่ระบบที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงเพียงเล็กๆน้อยๆ หรือที่เข้าใจกันว่า เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะหรือเปล่า ? วันนี้ CondoNewb จะมาไขข้อข้องใจ ตอบทุกความสงสัยให้ทุกท่านกันครับ ว่าจริงๆแล้วเจ้า Smart Home คืออะไรกันแน่

คำว่า Smart Home ในภาษาไทยเราจะเรียกว่า “บ้านอัจฉริยะ” ซึ่งในความหมายของคนไทย ก็อาจจะหมายถึงบ้านที่มีระบบต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย ตอบสนองคำสั่งเล็กน้อยๆ ช่วยให้เราดำเนินชีวิตได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าอยากได้ข้อมูลที่ลงลึกกว่านั้น เราจะต้องมาดูความหมายของ Technology Smart Home ที่เป็นสากล ถูกจำกัดความอย่างเป็นกลางทั่วโลก ดังนี้ครับ

“ปี 2003 Housing Learning & Improvement Network ได้ตีพิมพ์คำจำกัดความของ Smart Home ซึ่งถูกนำเสนอโดย Intertek ว่า Smart Home คือ การรวมโครงข่ายการสื่อสาร(Communication Network) ของที่อยู่อาศัยรวมเข้าด้วยกันเพื่อเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า การบริการ การตรวจตราดูแล รวมทั้งสามารถเข้าถึงการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้” (โดยการควบคุมอาจหมายถึงการควบคุมทั้งที่เกิดจากทั้งภายในที่อยู่อาศัยเองหรือถูกควบคุมจากภายนอกก็ได้)

แล้วหลังจากนั้น มันก็จะมีคำถามตามมาว่า แบบไหนล่ะ ถึงจะเข้าข่าย โอเคเราเข้าใจแล้วล่ะ ว่า Smart home คือ ระบบบ้านอัจฉริยะ เป็นระบบการทำงานของระบบต่างๆ ทั้งภายนอกและภายในบ้านให้ถูกควบคุมเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยการทำงานของซอฟต์แวร์ผสมกับอุปกรณ์เฉพาะของแต่ละยี่ห้อ แต่มีหัวใจเดียวกันคือการสร้างความสะดวกให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมันก็จะมีคุณสมบัติ ที่จะบ่งบอกว่าบ้านของเรานั้นเป็น Smart Home บ้านอัจฉริยะ หรือยัง ดังต่อไปนี้ครับ

• 1.1 Power line System(X10) เป็นต้นแบบ ที่ใช้สื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบ Home Automation ถูกพัฒนาเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับแหล่งจ่ายไฟหลักได้โดยตรง เป็นระบบที่ง่ายในการติดตั้ง สามารถทำงานได้เร็วและราคาถูก โดยข้อเสียหลัก ๆ ของระบบนี้คือการรบกวนค่อนข้างมาก

• 1.2 Bus line(EIB,Cebus) ใช้สาย 12volt แยกออกมา(ตีเกลียว) เพื่อรับส่งข้อมูลกับอุปกรณ์ เป็นอิสระจากแหล่งจ่ายไฟ เพื่อป้องกันการรบกวน

• 1.3 Radio Frequency(RF) และ Infrared(IR) System เป็นระบบที่ใช้กันมาก ผู้ผลิตส่วนใหญ่มักใช้ระบบนี้ในอุปกรณ์ Smart Home แต่ระบบนี้ก็ยังมีปัญหาอันเกิดจากการรบกวนสัญญาณและระยะทางในการส่งสัญญา.

• 2.1 เป็นเสมือนสะพานเชื่อมต่อระหว่าง Technology ที่แตกต่างกันของอุปกรณ์ Smart Home ภายในบ้าน ให้สามารถทำงานสอดคล้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

• 3.2 Smart Sofa คือโซฟาที่สามารถปรับความอ่อนแข็งได้ตามสรีระและความพอใจของแต่ล่ะคน

• 3.3 Smart Bathroom คือห้องน้ำอัจฉริยะ ที่สามารถควบคุมอุณภูมิ เสียง แสง และกลิ่นภายในห้องน้ำได้

• 3.4 Smart Door คือประตูอัตโนมัติ ที่สามารถตรวจจับใบหน้าของสมาชิกภายในบ้านแล้วทำการเปิดปิดเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะคล้ายกับตัว ครับ

• 3.6 Security System คือระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่ใช่เป็นเพียงกล้องที่บันทึกเหตุเท่านั้น แต่ยังมีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และไซเรนเพื่อส่งเสียงในการระงับเหตุ

ผลสำรวจข้อมูลผู้บริโภคของ EIC (Economic Intelligence Center) จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จำนวน 7,701 คน พบว่า Technology Smart home จะกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญมากขึ้น ในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยุคใหม่ และเมื่อวิเคราะห์ถึงประเภทของอุปกรณ์ที่ผู้บริโภคสนใจ จะพบว่าราว 77% ของผู้ตอบแบบสำรวจอยากให้มีระบบเตือนภัยอัจฉริยะภายในบ้านอัจฉริยะ ในขณะที่ราว 73% ต้องการให้มีระบบช่วยควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าและจัดการพลังงานภายในบ้านเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค

ก็อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั่นแหละครับ บ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home คือตัวระบบที่จะคอยช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของบ้าน รักษาความปลอดภัย รวมถึงควบคุมระบบต่างๆให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พอเรามามองในเรื่องของประโยชน์ แน่นอนว่า Technology สมัยใหม่ที่ถูกคิดค้นขึ้น จะต้องมีประโยชน์อยู่แล้ว โดยมีการจำแนกประโยชน์ของ Smart Home ออกมาได้หลักๆ 6 ข้อ ดังนี้ครับ

เหล่าบรรดา Home Automation Device หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ ที่มักจะชอบใช้ชื่อประกอบผลิตภัณฑ์ว่า Smart TV , Smart Refrigerator หรืออะไรก็ตามที่มักจะมีคำว่า Smart อยู่ ล้วนแล้วแต่สามารถสั่งงานผ่านทาง Smart Phone หรือ Tablet ได้ ซึ่งรวมไปถึงการเปิดปิดไฟ ล็อกหรือปลดล็อกประตูบ้านอีกด้วย

ในด้านของความปลอดภัยจากการที่เราใช้ Smart Home คือ จะสามารถตรวจสอบ การเข้าออกบ้านได้ Real Time ผ่าน Smart Phone รวมถึงการเปิดปิดประตูที่มีระบบล็อกอัตโนมัติ ระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวและแจ้งเตือนหากมีสิ่งผิดปกติเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน ช่วยป้องกันอันตรายให้ชีวิตและทรัพย์สินของเราได้เป็นอย่างดี

ความเข้าถึงง่ายของที่กำลังจะพูดถึงของ Smart Home คือ การที่ทุกคนในบ้านสามารถใช้งาน Technology นี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ด้วยระบบสั่งการที่หลากหลาย ไม่ต้องกังวลว่าผู้สูงอายุจะไม่สามารถใช้งานได้ เพราะมีระบบสั่งงานด้วยเสียง ไม่ว่าจะเป็น เปิด/ปิด ไฟ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายและสะดวกครับ

ในแง่ของการบริหารจัดการพลังงานภายในบ้านนั้น Smart Home คือ ตัวช่วยที่ค่อนข้างมีประโยชน์มากทีเดียวครับ ยกตัวอย่างเช่น ระบบเปิด/ปิดไฟอัตโนมัติ เมื่อตรวจพบว่าไม่มีความเคลื่อนไหวในห้อง อุปกรณ์ไฟฟ้าบางชิ้นที่จะมีการปรับการทำงานให้สอดคล้องกับการใช้งาน หรือปิดเครื่องเองเมื่อเราใช้งานเสร็จ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองเกิดขึ้นเลยครับ

และจากประโยชน์ในข้อที่ 4 ที่ว่า Smart Home คือ ตัวช่วยในการใช้พลังงานนั้น จึงส่งผลให้เกิดประโยชน์ในข้อที่ 5 นี้ขึ้น อ้างอิงตามรายงานจากจาก US Environmental Protection Agency ผู้ที่ใช้ Technology Smart Home ภายในบ้าน สามารถประหยัดค่าไฟได้ถึง 10 – 30% เลยทีเดียวครับ

ถึงแม้ในประเทศไทย Smart Home ยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ แต่ในต่างประเทศ มีหลายบริษัทผู้ผลิตที่กำลังพัฒนาให้ Smart Home ยิ่งมีประสิทธิภาพ จนบางอย่างนั้นเข้าขั้นปัญญาประดิษฐ์ไปแล้ว รวมถึงความแพร่หลายในการติดตั้งอุปกรณ์ Smart Device ในบ้านแต่ละหลังก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทีเดียว ฉะนั้นในอนาคต Technology Smart Home ในไทยจะต้องได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของความสำคัญด้านความสะดวกและประหยัดพลังงาน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี โดย Statista บริษัททำงานวิจัยด้านการตลาดของเยอรมนี ระบุว่าสหรัฐฯ จัดเป็นประเทศที่มีการใช้อุปกรณ์ Smart home มากที่สุดในโลก โดย Home automation มีสัดส่วนมากที่สุด ตามมาด้วยอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย รองลงมาคือ สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ตามลำดับ

ปัจจุบัน มี Developer หลายบริษัทที่ทำใช้ Technology Smart Home คือ แสนสิริ , อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ , ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และ เอพี ไทยแลนด์ ซึ่งได้ทำการพัฒนาที่อยู่อาศัยในโครงการของตนให้มีการติดตั้งอุปกรณ์ Smart Home ไปแล้วด้วยเลย ซึ่งทำให้เริ่มมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยที่เด่นๆและเห็นได้ตามโครงการในปัจจุบันนี้ คือ Smart Mirror กระจกที่เปรียบเสมือนสมาร์ทโฟนขนาดยักษณ์ ที่สามารถเชื่อต่อกับ Smart Phone ดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้กระทั่งใช้คุยโทรศัพท์ได้ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม Technology นั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งหากในอนาคต มีการใช้งานบ้านอัจฉริยะกันอย่างแพร่หลาย Smart Home คือสิ่งที่ถ้าได้ใช้มันก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ลองคิดดูนะครับว่าเมื่อไม่ถึง 10 ปีก่อน สิ่งที่เราเห็นในหนัง SI-FI ตัวละครที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกอนาคต ทำทุกอย่างผ่านการสั่งงานด้วยเสียงและอุปกรณ์ทุกอย่างตอบรับด้วยระบบอัตโนมัติ ใครจะไปคิดว่าเราจะสามารถใช้มันได้จริงๆในตอนนี้ โดย IDC คาดการณ์ว่า ภายในปี 2022 จำนวนของอุปกรณ์เหล่านี้จะเติบโตไปถึงเกือบ 1,300 ล้านเครื่อง ถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และในอนาคต เราทุกคนคงจะได้ใช้เจ้า Technology Smart Home กันครบทุกคน และถูกติดตั้งไว้ในทุกบ้าน ไม่อุปกรณ์ใดก็อุปกรณ์หนึ่ง แน่นอนครับ Lifestyle การใช้ชีวิตคอนโดแบบนี้มีอีกเพียบที่ CondoNewB นะครับ

สุนงคาน เหมกุล

LEAVE A REVIEW